การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา และเปรียบเทียบระดับการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถม ศึกษากระบี่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 25 คน และข้าราชการครูผู้สอน จำนวน 316 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นแบบ Rating Scale จำนวน 60 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยง เบนมาตรฐานและแบบทดสอบ สมมติฐาน โดยใช้ค่า t -test และ F –test ผลการวิจัยพบว่า 1. การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ โดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีการบริหารโดยใช้หลักธรรมาภิบาลโดยระดับการบริหารอยู่ในระดับมากที่สุดด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ หลักความคุ้มค่า รองลงมาคือหลักคุณธรรม หลักความรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส หลักนิธิธรรม หลักความมีส่วนร่วม ตามลำดับ 2. การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ จำแนกตามตัวแปรวิทยฐานะ โดยรวมพบว่าวิทยฐานะแตกต่างกันระดับการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมแตกต่างกันและรายด้านพบว่า ด้านคุณธรรม ด้านความโปร่งใส และด้านความคุ้มค่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำแนกตัวแปรตามประสบการณ์ในการปฏิบัติราชการ โดยรวมพบว่า ประสบการณ์ในการปฏิบัติราชการแตกต่างกันระดับการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาโดย รวมแตกต่างกัน รายด้านพบว่า ด้านคุณธรรม ด้านความโปร่งใส ด้านความรับผิดชอบและด้านความคุ้มค่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจำแนกตัวแปรตามขนาดสถาน ศึกษาโดยรวมและรายด้านพบว่า ขนาดสถานศึกษาแตกต่างกันระดับการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05