การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาด้านระบบดูช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน ในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพนบพิตำสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 4

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านระบบดูช่วยเหลือนักเรียน และเพื่อศึกษาปัญหาของการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนในการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านระบบดูช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน ในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพนบพิตำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 322 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวน ( F-test ) เมื่อพบความแตกต่างได้ดำเนินการทดลองเป็นรายคู่ด้วยวิธีของ Scheffe’s ผลการวิจัยพบว่า 1. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านระบบดูและช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพนบพิตำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง 2. ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านระบบดูและช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพนบพิตำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 จำแนกตามเพศ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านทั้ง 5 ด้าน พบว่าด้านการส่งเสริมนักเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 3. ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านระบบดูและช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพนบพิตำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 จำแนกตามอายุ เพศและวุฒิการศึกษา โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 4. ปัญหาการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านระบบดูและช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพนบพิตำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบดูและช่วยเหลือนักเรียนขาดการประสานงานจากโรงเรียน และการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนยังไม่ต่อเนื่อง