DSpace Community:
http://dspace.nstru.ac.th:8080/dspace/handle/123456789/677
2024-02-28T05:06:56Z
2024-02-28T05:06:56Z
การวางแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
พริ้มพราย, อัญชลี
http://dspace.nstru.ac.th:8080/dspace/handle/123456789/820
2011-07-07T07:51:09Z
2011-07-07T00:00:00Z
Title: การวางแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
Authors: พริ้มพราย, อัญชลี
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัญหาการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีผลกระทบโดยตรงกับการวางแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพื่อวางแผนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก เพื่อดำเนินงานตามแผนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก และเพื่อวัดผลการดำเนินงานตามแผนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก จังหวัดนครศรีธรรมราช
จากการศึกษาปัญหาการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก ปัญหาที่พบมี 5 ประการ คือ ยางคัตติ้ง ยางฟอง ยางมีสิ่งสกปรก ยางสุกไม่ทั่ว และยางเหนียวเยิ้ม โดยปัญหาที่พบมาก คือ ยางคัตติ้งและยางฟองเป็นเหตุผลให้ผู้วิจัยวางแผนการผลิตเพื่อให้การทำงานเป็นระบบและมีมาตรฐานการทำงานเพื่อลดการเกิดปัญหาขึ้น ในการวางแผนการผลิตนั้นผู้วิจัยได้ใช้หลักการของ 5W1H ภายหลังการดำเนินงานตามแผนพบว่าปริมาณของเสียลดลงจากเดิมเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการดำเนินงานตามแผน
นอกจากนี้พบว่าพนักงานในฝ่ายผลิตได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และพนักงานมีความรู้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับระบบการผลิต รวมทั้งพนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานมากยิ่งขึ้น
2011-07-07T00:00:00Z
การพัฒนาอุปกรณ์ตัดทะลายปาล์มน้ำมันโดยอาศัยเครื่องยนต์
บุญมาก, เอ็มหร่อน
http://dspace.nstru.ac.th:8080/dspace/handle/123456789/819
2011-07-07T07:46:00Z
2011-07-07T00:00:00Z
Title: การพัฒนาอุปกรณ์ตัดทะลายปาล์มน้ำมันโดยอาศัยเครื่องยนต์
Authors: บุญมาก, เอ็มหร่อน
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ตัดทะลายปาล์ม โดยใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กเป็นต้นกำลัง ส่งผ่านกำลังด้วยข้อเหวี่ยงเยื้องศูนย์ ที่มีเฟืองเกียร์ปรับความเร็วรอบ และชุดใบมีดที่สามารถตัดได้ทั้งทะลายปาล์มและทางปาล์ม ผลการทดลองใช้ตัดทะลายปาล์ม 30 ต้น พบว่า อุปกรณ์ตัดทะลายปาล์มมีน้ำหนัก 14 กิโลกรัมสามารถตัดทางใบและทะลายปาล์มได้ทุกขนาด ที่ความสูงไม่เกิน 3 เมตร ใช้เวลาในการตัดเฉลี่ย 23.33 วินาทีต่อทะลายปาล์ม ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการตัดด้วยเสียมที่ความสูงมากกว่า 1 เมตร และเครื่องตัดทะลายปาล์มใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.33 ซี.ซี.ต่อทะลาย
2011-07-07T00:00:00Z
การออกแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟที่มีแนวความคิดจากการบูรณาการเครื่องปั้นดินเผากับ ศิลปะการแกะหนังตะลุง
รัตนพันธุ์, ชัชวาลย์
http://dspace.nstru.ac.th:8080/dspace/handle/123456789/805
2011-06-24T04:07:20Z
2011-06-24T00:00:00Z
Title: การออกแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟที่มีแนวความคิดจากการบูรณาการเครื่องปั้นดินเผากับ ศิลปะการแกะหนังตะลุง
Authors: รัตนพันธุ์, ชัชวาลย์
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ออกแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟที่มีแนวความคิดจากการบูรณาการเครื่องปั้นดินเผากับศิลปะการแกะหนังตะลุง 2) ทดลองสร้างแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟจากการผสานกันของวัสดุเครื่องปั้นดินเผาและศิลปะการแกะหนังตะลุง 3) เลือกสรรผลิตภัณฑ์โคมไฟที่เหมาะสมจากการทดลองสร้าง
การออกแบบและกระบวนการผลิตโคมไฟเสร็จสมบูรณ์ จำนวน 9 แบบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามการประมาณค่าความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการออกแบบ กลุ่มที่ 2 ผู้ประกอบการเครื่องปั้นดินเผาในจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มที่ 3 ผู้ประกอบการแกะหนังตะลุงในจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มที่ 4 ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และมูลค่าเพิ่มสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก กลุ่มที่ 5 ผู้ประกอบการร้านขายผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน กลุ่มที่ 6 ผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 6 กลุ่ม จำนวน 30 คน มีความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับโคมไฟทั้ง 9 แบบ ดังนี้ 1) ด้านคุณค่าของงานหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 5 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดเท่ากับ 3.91 อยู่ในระดับความคิดเห็นที่ดี และผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุดเท่ากับ 3.35 อยู่ในระดับความคิดเห็นปานกลาง 2) ด้านประโยชน์ใช้สอย ผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 5 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุด เท่ากับ 3.53 อยู่ในระดับความคิดเห็นที่ดี และผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด เท่ากับ 3.31 อยู่ในระดับความคิดเห็นปานกลาง 3) ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่ม ผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 5 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุด เท่ากับ 3.77 อยู่ในระดับความคิดเห็นที่ดี และผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด เท่ากับ 3.41 อยู่ในระดับความคิดเห็นปานกลาง
เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โคมไฟทั้ง 9 แบบ โดยพิจารณาทั้ง 3 ด้านรวมกัน ได้แก่ 1) ด้านคุณค่าของงานหัตกรรม 2) ด้านประโยชน์ใช้สอย และ 3) ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่ม ผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 5 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุด เท่ากับ 3.71 อยู่ในระดับความคิดเห็นที่ดี และผลิตภัณฑ์โคมไฟแบบที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นน้อยที่สุดเท่ากับ 3.35 อยู่ในระดับความคิดเห็นปานกลาง
2011-06-24T00:00:00Z
การศึกษาเพื่อการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมจักสานจากพืชท้องถิ่นภาคใต้ กรณีศึกษา กลุ่มจักสานใบกะพ้อ หมู่บ้านอายเลา ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
พัตรานนท์, เจษฎา
สุขสิกาญจน์, เรวัติ
ศรีนพจันทร์, เขมภิกา
นุ่นจุ้ย, เพ็ญศรี
http://dspace.nstru.ac.th:8080/dspace/handle/123456789/804
2011-06-24T03:13:21Z
2011-06-24T00:00:00Z
Title: การศึกษาเพื่อการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมจักสานจากพืชท้องถิ่นภาคใต้ กรณีศึกษา กลุ่มจักสานใบกะพ้อ หมู่บ้านอายเลา ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
Authors: พัตรานนท์, เจษฎา; สุขสิกาญจน์, เรวัติ; ศรีนพจันทร์, เขมภิกา; นุ่นจุ้ย, เพ็ญศรี
Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษางานหัตถกรรมจักสานจากพืชท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กลุ่มจักสานใบกะพ้อ หมู่บ้านอายเลา ตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นกรณีศึกษา เพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลที่เป็นระบบในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทำหัตถกรรมจักสานจากพืชท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีขั้นตอนดำเนินการวิจัย คือ ขั้นที่ 1 ศึกษางานหัตถกรรมจากใบกะพ้อ ทำการศึกษาบริบทของชุมชน กรรมวิธีการผลิต และรูปแบบของงานหัตถกรรมจากใบกะพ้อ ขั้นที่ 2 การอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทำหัตถกรรมจากใบกะพ้อ ทำการศึกษาสภาพการสืบทอดภูมิปัญญา จากนั้นพัฒนาวิธีการสืบทอดภูมิปัญญาและการเรียนรู้ ทดลองใช้วิธีการสืบทอดภูมิปัญญาและการเรียนรู้ และประเมินความคิดเห็นในการจัดกิจกรรม สืบทอดภูมิปัญญาและการเรียนรู้งานหัตถกรรมจากใบกะพ้อในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ผลการวิจัย ได้พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม หมวดวิชาศิลปะ เรื่องการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมจักสานจากใบกะพ้อเพื่อการสืบทอดภูมิปัญญาและการเรียนรู้งานหัตถกรรม จากใบกะพ้อในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจัดการเรียนการสอนในทุก ๆ วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.30-15.30 น. จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์ 10 หน่วยการเรียนรู้ ผู้เรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2 และ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 จำนวน 37 คน ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมหมวดวิชาศิลปะ เรื่องการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมจักสานจากใบกะพ้อ จากความคิดเห็นของบุคคลที่มีส่วนร่วม 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้เรียน ผู้สอน และชุมชนเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน มีความรู้เกี่ยวกับหัตถกรรมจักสานจากใบกะพ้อเพิ่มขึ้น ภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของท้องถิ่นตนเอง สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและส่งเสริมเป็นอาชีพได้ สามารถอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมจักสานจากพืชท้องถิ่นแบบพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด
2011-06-24T00:00:00Z